ถ้าโลกนี้ไม่มีต้นไม้

ถ้าโลกนี้ไม่มีต้นไม้ อีกหนึ่งคำถามที่ยากจะตอบซึ่งหลายๆ คนนั้นอาจจะไม่อยากเเม้เเต่จะนึกถึง เเต่หากประเมินจาก รูปเเบบการใช้ชีวิตของมนุษย์ที่ยังคงทำร้ายธรรมชาติอย่างไม่ยั้งคิด ใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง ก่อมลพิษไม่ หยุดหย่อน ผืนป่าขนาดใหญ่ถูกทำลายจนปริมาณลดลงอย่างน่าใจหาย ทำให้มีเเนวโน้มว่า คำถามนี้จะดังถี่ขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งถึงวันนั้น วันที่โลกไมมี่สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์นั่นเอง ถึงเเม้ว่าทุกวันนี้นั้นธรรมชาติจะถูกทำร้ายเป็นอย่าง มากจนหลายผืนป่ากลายเป็นพื้นที่โล่งเตียนยากจะกลับมาอุดมสมบูรณ์ดังเดิม เเต่ถ้าเราปล่อยปละละเลยไปตามยถา กรรม อีกทั้งยังไม่เลิกรูปเเบบการดำเนินชีวิตที่ส่งผลกระทบต่อธรรมชาติ ก็เหมือนดั่งเร่งวันคืนเเห่งหายนะให้เกิดเร็ว ยิ่งๆ ขึ้นไปในทางตรงกันข้าม หากทุกคนตระหนักร่วมมือร่วมใจรักษาสภาพเเวดล้อม ลดพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดมลพิษ เเละช่วยกันตั้งคำถามขึ้นมาใหม่ว่าเราจะทำอย่างไร ถ้าโลกนี้ไม่มีมีต้นไม้ เพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นคำถามที่ก่อให้เกิดความหวังว่า ลูกหลานของเราในวันข้างหน้า อาจจะมีชีวิตอยู่บนโลกที่สวยงามใบนี้ได้ไปอีกนานเเสนนานกันนั่นเอง

1.เป็นที่แน่นอนถ้าหากว่าโลกนี้ที่เราอาศัยอยู่นี้นั้นไม่มีต้นไม้

และพืชพรรณต่างๆ จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ภูมิอากาศ เมื่อไม่มีต้นไม้คอยทำหน้าที่ปกคลุมแสงแดดที่ส่องลงมายังพื้นโลกมาทำให้โลกร้อนขึ้นอย่างรวดเร็วนั่นเอง อีกทั้งเหล่าต้นไม้นี้นั้นก็ยังช่วยขยายวัฏจักรของน้ำ ซึ่งจะทำให้เกิดการหมุนกลับของไอน้ำเข้าสู่บรรยากาศ เพราะฉะ นั้นการทำลายป่าจึงทำให้อุณภูมิของโลกนี้นั้นสูงขึ้น จนทำให้เป็นอันตรายต่อมนุษย์ พืช สัตว์ และสิ่งมีชีวิตที่อาศัย อยู่บนโลกใบนี้นั่นเอง ซึ่งเรื่องของการทำลายป่า ตัดต้นไม้นี้นั้นก็จะสงผลต่อวัฏจักรของน้ำ เพราะว่าต้นไม้นั้นสกัด น้ำบาดาลผ่านทางราก และปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศ เมื่อใดที่พื้นที่ป่าบางส่วนถูกทำลาย ต้นไม้จะไม่คายน้ำอีกต่อไป นั่นเอง อีกทั้งยังมีผลทำให้สภาพอากาศของโลกเรานั้นแห้งมากยิ่งขึ้นไปจากเดิมนั่นเอง การทำลายป่าลดปริมาณของ น้ำในดิน น้ำบาดาล ลดการเกาะตัวของดิน ทำให้เกิดผลที่ตามมาคือหน้าดินพังทลาย น้ำท่วม และดินถล่มนั่นเอง

ไม่มีต้นไม้ Discoveryman

2.สิ่งที่เป็นตัวส่งผลกระทบต่อโลกของเรา

อีกหนึ่งสิ่งนั้นนั่นก็คือ การทำเหมืองเปิด เป็นการทำลายป่าที่มี ความร้ายแรงเป็นอย่ามาก เพราะในการทำเหมืองแร่นั้นจะต้องทำการเปิดหน้าดินออกเพื่อขุดหาแร่ต่างๆ ที่อยู่ใต้พื้นดิน เมื่อพื้นดินปราศจากสิ่งปกคลุม ช่วงเวลาที่ฝนตกลงมากระทบกับพื้นดินโดยตรง และไม่มีต้นไม้ที่จะสกัด หรือสิ่งปก คลุมดินที่จะซับ หรือดูดซึมน้ำเอาไว้ ทำให้เกิดน้ำไหลบ่าหน้าดินมาก ทำให้เกิดการกัดเซาะที่รุนแรงตามลำห้วย ลำธาร หรือบริเวณใกล้เคียงจนเกิด ความเสียหายแก่ทรัพย์สิน ไร่นา และที่อยู่อาศัยของผู้คนในบริเวณนั้นนั่นเอง

3.อีกหนึ่งสิ่งที่จะเป็นตัวการที่จะทำให้โลกของเรานั้นไม่มีต้นไม้นั่นก็คือ

การเกิดไฟป่าที่จะเป็นตัวที่จะส่งผลทำให้ ผิวหน้าดินในป่าที่ถูกไฟไหม้นั้นขาดคุณภาพในการดูดซึม และซับน้ำ จึงทำให้น้ำฝนที่ตกลงมาท่วม เกิดเป็นน้ำป่าไหล หลาก และนอกจากนี้ยังทำให้เกิดการกัดเซาะของหน้าดินตามแนวลำธารนี้นั้นทำให้น้ำขุ่นมัว ไม่ใสสะอาด ซึ่งมันทำ ให้คุณภาพของดินนั้นก็เสื่อมคุณภาพลงไปด้วย และไหนจะเหล่าพืชผลผลิตทางการเกษตรที่จะได้รับผลกระทบเกิด ความเสียหาย ที่จะตามมาอีกนั่นเอง และอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญถ้าหากว่าโลกของเรานั้นไม่มีต้นไม้นั่นก็คือ เหล่าสิ่งมีชีวิต นั้นก็จะไม่มีอากาศในการช่วยในการหายใจกันนั่นเอง

ไฟไหม้ Discoveryman

ถ้าหากว่าโลกนี้นั้นไม่มีต้นไม้คนเรานั้นก็อาศัยอยู่บนโลกนี้ได้ ซึ่งต้นไม้นั้นสร้างออกซิเจนให้โลกนี้ด้วยการสังเคราะห์ แสง แต่การจะอธิบายกลไกการสร้างออกซิเจนระหว่างการสังเคราะห์แสงของพืชยังเป็นเรื่องที่ต้องทำการศึกษาวิจัย นั้นพบ ว่าได้ค้นพบโปรตีนที่สำคัญในการสร้างออกซิเจนของพืช คือ PsbP และ PsbQ ทั้ง 2 โปรตีนต้องทำงานร่วมกัน ในการใช้แคลเซียม และคลอไรด์อย่างมีประสิทธิภาพ ในการสร้างออกซิเจน เพราะอย่างนั้นเรานั้นจึงต้องช่วยกันใน การดูแลต้นไม้ และอีกหนึ่งสิ่งที่สำตฃคัญนั้นเราทุกคนนั้นต้องอย่าลืมปลูกต้นไม้ รักษาป่า เพื่อจะได้ตัวช่วยในการสร้าง ออกซิเจนให้กับโลกนี้เพื่อที่เหล่าสิ่งมีชีวิต และเรานั้นจะได้มีอากาศที่จะใช้ในการหายใจ และเพื่อที่จะรักษาโลกของเรา นั้นให้อยู่กับเรานั้นไปให้นานแสนนานนั่นเอง

Write by : Discoveryman

Facebook Page : Discoveryman 22